ล่าสุด นาง เสาวณีย์ ได้ออกมายอมเปิดปากทั้งน้ำตากับผู้สื่อข่าว บอกว่ารู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับผิดทุกกรณี และได้โทรศัพท์หาเจ้าของเงินแล้ว ซึ่งเบื้องต้นจะเอาทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ลูกสาวเอาเงิน 20,000 ไปปิดมา เอาไปเข้าไฟแนนซ์คืน แล้วจะโอนกลับไปให้เจ้าของเงินทันที ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 110,000 เศษ จะขอทำงานผ่อนชำระให้ และอยากจะฝากถึงผู้ที่คิดจะทำแบบนี้ ให้เลิกคิด เงินของเขายังไงก็เป็นของเขา ที่ผ่านมาหลังเกิดเรื่อง รู้สึกเป็นจำเลยสังคม อยู่อย่างลำบากแทบฆ่าตัวตาย
ขณะที่ ด้าน น.ส. วิราวรรณ เจ้าของเงินที่โอนผิด บอกว่า วันนี้ น.ส. เสาวนีย์ ได้โทรศัพท์เข้ามาว่าขอโทษ และอยากจะขอโอกาสกลับตัว ข้อเสนอดังกล่าวที่จะโอนเงินมา 20,000 บาท และขอโทษ ตนรับขอโทษ แต่ว่าส่วนหนึ่ง ก็อยากให้ได้รับผลที่กระทำไป โดยเฉพาะการพูดแบบขวานผ่าซากว่า “ใช้เงินหมดแล้ว จะยอมติดคุก” ทั้งนี้จะต้องมาเจรจาพูดกันเป็นทางการต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้ยังไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้เห็นแววตากันว่ามีแววตาที่จริงใจในการขอโทษหรือไม่