โดย นางต้อย (นามสมมติ) หญิงที่แอบอยู่ใต้บันไดในกุฏิพระ ซึ่งอยู่ในลักษณะขดตัวคุดคู้อยู่ใต้บันได มีจีวรคลุมตัวอำพราง และใกล้กันพบชุดชั้นในสีฟ้าตกอยู่ข้างๆ ได้เปิดใจกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้เครียดมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามที่สังคมเข้าใจ
เธอบอกว่า ในวันเกิดเหตุ ตนนำเอกสารไปให้หลวงพ่อเซ็น แต่ระหว่างจะกลับ ก็ได้ยินเสียงโวยวาย และเกิดการบุกเข้ามา ตัวเองจึงไปแอบที่ใต้บันได และเอาจีวรคลุม เมื่อแอบตัวอยู่ตรงนั้นก็มีคนมาเจอ ตอนนั้นตกใจมากเพราะคนเยอะ และทุกคนมุ่งเป้ามาที่ตน จากนั้นไม่รู้ว่าชุดชั้นในที่ตกอยู่ในนั้นเป็นของใคร และมาจากไหน แต่ไม่ใช่ของตนเอง ทั้งนี้ จากการสังเกตช่วงที่ชุลมุน ชุดชั้นในนี้เหมือนมีการโยนมาหรือเอามาวางไว้ ซึ่งไม่ใช่ของตนเองแน่นอน เพราะตอนที่ถูกนำตัวออกมาจากกุฏิ ชุดชั้นในก็ยังใส่อยู่ครบ และอีกอย่างตนอายุเยอะแล้วไม่ใส่เสื้อชั้นในแบบนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกลั่นแกล้งหลวงพ่อ เพราะในวัดนี้มีคนไม่ชอบหลวงพ่อหลายคน และพยายามทำให้หลวงพ่อพ้นจากวัด ตอนนี้เครียดมาก ตนมีครอบครัวและลูก ทุกคนรู้ข่าวก็ตกใจ แต่ทุกคนรู้ว่าตนไม่ได้ทำไม่ดีในกุฏินั้น ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือกระทำการไม่เหมาะสม แค่นำเอกสารไปให้หลวงพ่อ
เมื่อสอบถามถึงการนำเอกสารไปให้หลวงพ่อ ทำไมจึงไปในยามวิกาล ซึ่งเป็นเวลาที่พระเข้ากุฏิแล้ว นางสาวต้อยไม่ขอตอบคำถาม และบอกว่าตอนนี้เครียดจนอยากฆ่าตัวตาย อยากขอให้สังคมให้ความเป็นธรรมตนด้วย ด้าน พันตำรวจเอกจักรพงศ์ นุชผดุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร .สำโรงใต้ ระบุว่า หลังจากเชิญตัวมาสอบปากคำกับทางนายสมุทร อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งในชั้นสอบสวนไม่พบความผิดทางคดีอาญา และยังไม่มีผู้เสียหายที่เป็นหญิงสีกาเข้ามาแจ้งความแต่อย่างใด จึงต้องปล่อยตัวไปเนื่องจากไม่พบความผิดในชั้นสอบสวน
ขณะที่ เบื้องต้น เจ้าตัวก็ไม่ได้ให้การรับสารภาพแต่อย่างใด แต่ก็จำนนด้วยหลักฐานตามที่ปรากฏตามสื่อ ขณะฝ่ายสีกาไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรต่อพนักงานสอบสวน หลังเกิดเหตุทำได้แค่นำตัวมาที่โรงพักเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น