เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมนายเสมา ขจรพันธ์ อายุ 50 ปี ผู้ก่อเหตุยิง นางสาว สุจิตรา เสียชีวิต โดยพลตำรวจตรีมานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น เป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เนื่องจากมีพยานหลักฐานเพียงพอให้ศาลเชื่อได้ว่า ผู้ก่อเหตุมีความผิดจริง ถึงแม้ผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวน แต่เมื่อมีหมายจับแล้ว ก็ต้องถือว่าเป็นการจับกุมตามหมายจับ เบื้องต้นตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนเข้าไปสอบปากคำภายในห้องสอบสวนนานเกือบ 1 ชั่วโมง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตจริง โดยอาวุธปืนที่ใช้เป็นอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน และนำมาเก็บรักษาไว้ที่บ้านที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิตมีการท้าทาย และนัดหมายจะนำหลานสาวมาส่งให้ที่บ้าน ในวันเกิดเหตุ เมื่อฝั่งผู้เสียชีวิตมาถึงก็มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน จนเกิดการชุลมุนกันขึ้น แต่ก็แยกย้ายกัน กระทั่งผู้เสียชีวิตออกจากบ้านไป ผู้ต้องหาพบว่าตัวเองถูกแทงเข้าที่ท้องด้านซ้าย จึงให้ผู้ต้องหาอีก 1 คนซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พาไปส่งโรงพยาบาล และอ้างว่าเกรงจะถูกฝั่งของผู้เสียชีวิตรุมทำร้าย จึงพกอาวุธปืนไปด้วย เมื่อพบผู้เสียชีวิตยืนอยู่ที่หน้าปากซอยจึงเกิดความรู้สึกแค้นที่โดนทำร้าย จึงใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต ก่อนจะหลบหนีไป ก่อนจะนำอาวุธปืนไปโยนทิ้งที่คลองห่างจากจุดเกิดเหตุ และไปหาที่ตั้งหลักเพื่อต่อสู้คดี
ทั้งนี้เมื่อชุดสอบสวนถามถึงประเด็นเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในครอบครัวและหลานสาว ผู้ต้องหาก็ปล่อยโฮร้องไห้ฟูมฟายด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะหลานสาวไม่รัก ไม่เชื่อฟัง ติดเพื่อนและหนีออกจากบ้านไปอยู่บ้านคนอื่น ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้มีการลงโทษหลานสาวแต่เป็นด้วยความรักและเป็นห่วงใย ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายอย่างที่คู่กรณีกล่าวอ้าง