วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา หมอปลาและคณะได้เดินทางไปที่วัดบางจะเกร็ง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมนางจิรประภา เอี่ยวเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดสมุทรสงคราม นำกำลังจำนวนหนึ่งมารักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากมีชาวบ้านทั้งฝ่ายผู้เสียหายและฝ่ายเจ้าอาวาสมีการปะทะคารมกันไปมาจนเกือบมีเรื่องกันหลายครั้ง หมอปลา ได้สอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธก่อนว่ากรณี 2 พี่น้องถูกเจ้าอาวาสกระทำชำเราและกระทำอนาจาร ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่  24 พฤศจิกายนแต่ทำไมยังไม่มีความคืบหน้า จึงต้องเดินทางมาสอบถามข้อเท็จจริง ขณะที่กรรมการวัดได้ลงมาพบหมอปลาและผู้สื่อข่าวบอกว่าจะให้ทางเจ้าอาวาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริง

ด้าน เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส 20 ปี ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำชำเราเด็กทั้ง 2 คน โดยอ้างว่าเด็กทั้ง 2 เป็นญาติกัน อาตมาดูแลเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆ แต่จริงๆ เด็กก็ไม่ได้มาอยู่ที่วัดหรือมาช่วยงาน เพิ่งมาช่วงโควิดตั้งแต่ 08.00 น. ถึงหลัง 11.00 น. เวลาเรียนออนไลน์ก็เปิด Wi-Fi ให้เรียน แต่โทรศัพท์ไม่ค่อยดี หลานขอซื้อโทรศัพท์มือถืออาตมา จึงให้ช่วยที่วัดให้ค่าตอบแทนวันละ 200 บาท แบ่งเป็นผ่อนมือถือ 100 บาท และช่วยเหลือเด็กทั้งคู่ในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งอาตมาเองเป็นโรคต่อมลูกหมากโต และเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมา 8 ปี แล้วจะกระทำชำเราเด็กได้อย่างไร โดยเรื่องราวทั้งหมดอาตมาถูกกลั่นแกล้งจากพระลูกวัดในวัด อย่างไรก็ตาม จังหวะที่เจ้าอาวาสกำลังชี้แจงอยู่นั้นได้มีชาวบ้านเกือบ 100 คน ขึ้นมาบนกุฏิตะโกนด่าทอและขอให้เจ้าอาวาสสึก

สำหรับเหตุการณ์รายนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากป้าของเด็กหญิงเอ และเด็กหญิงบีว่า ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์สมุทรสงครามว่า เจ้าอาวาสได้ข่มขืน 2 เด็กหญิง ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 5 ถึงปัจจุบัน กำลังจะขึ้นชั้น ม.3 มายาวนานกว่า 4 ปี โดยใช้วิธีพูดจาหว่านล้อม ให้สิ่งของผ่านหญิงสาวที่ใกล้ชิดกับเจ้าอาวาสเป็นนกต่อ ช่วยพูดจาให้เด็กยินยอม โดยให้เงินและสิ่งของตอบแทน ให้เจ้าอาวาสข่มขืนเด็กมายาวนาน จนกระทั่งเด็กเริ่มโตขึ้นจึงพยายามตีตัวออกห่าง เพราะทนพฤติกรรมของพระรูปนี้ไม่ไหว

เข้าชม 30 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

สังคมอื่นๆ