พระสงฆ์วัดดอยจ่าตี่ หมู่ 5 ตำบลปางหมู ยิงปืนรัวใส่ชาวบ้าน และนางประพิณ แก้วทองมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว ไม่พบตัวพระผู้ก่อเหตุ ทราบว่าได้หนีไปพร้อมกับนำอาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาด ติดตัวไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการค้นในกุฏิ พบปืน บีบีกัน จำนวน 4 กระบอก ประกอบด้วยปืนบีบีกันคล้ายปืน เอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอก และปืนบีบีกัน เป็นปืนสั้น ขนาด .45 มม. คล้ายปืนโคลท์ 11 มม. อีก 1กระบอก ซึ่งในจำนวนปืนดังกล่าวมีปืนคล้าย ปืน เอ็ม 16 ที่ถูกดัดแปลงสามารถยิงกระสุนจริงได้จำนวน 1 กระบอก ที่เหลือยังไม่ได้ถูกดัดแปลง นอกจากนั้นยังพบอุปกรณ์ในการดัดแปลงปืน บีบีกัน อีกจำนวนมากในกุฎิดังกล่าว
ก่อนจะตรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบปืนสั้น บีบีกัน ดัดแปลงใส่กระสุน ขนาด จุด.380 นิ้ว ตกในที่เกิดเหตุ 1กระบอก ลักษณะปืนขัดลำกล้องและมีกระสุนค้างในลำเพลิง ใกล้กับจุดที่พบปืนสั้นตกอยู่ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .380 นิ้ว จำนวน 1 ปลอก ตกอยู่กับพื้น และที่บ้านของราษฎรที่อยู่ใกล้เคียงที่ฝาบ้านมีรอยกระสุนปืน 1 นัด ที่ต้นไม้ข้างบ้านเกิดเหตุ อีก 1 นัด ส่วนหัวกระสุนปืนและปลอกกระสุนปืน หาไม่พบ เนื่องจากมีเศษหญ้าและวัชพืชปกคลุมที่พื้นดินหนาทึบ นอกจากปืนพกสั้นดัดแปลงแล้ว ยังพบมีดดาบ ขนาดยาว กว่า 1 ฟุตอีก 1 เล่ม ตกใกล้กับปืนสั้นดัดแปลง
ด้าน นางประพิณ แก้วทองมา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ เปิดเผยว่า ในขณะเกิดเหตุ ทางพระสงฆ์ที่สำนักสงฆ์ดอยจ่าตี่ ดังกล่าว โดยมีพระเชื้อ นำพระสงฆ์อีก 4 รูป มาทำการแผ้วถางพื้นที่บริเวณเนินเขาตรงข้ามกับบ้านของชาวบ้าน และอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของวัด ห้ามบุกรุก ทั้งที่จุดดังกล่าว อยู่นอกเขตวัด และทางเจ้าของที่ดิน ได้ยกให้ชาวบ้านอาศัยเป็นเส้นทางเข้า-ออก หมู่บ้านและขณะที่ตนได้พยายามอธิบายว่าพื้นที่ดังกล่าว ไม่ใช่พื้นที่ของสงฆ์ แต่ปรากฎว่า พระเชื้อได้ชักปืนพกสั้น ยิงใส่ตน ทำให้ชาวบ้านที่อยู่กับตนพากันหมอบกับพื้นและคลานหนีตายออกจากจุดดังกล่าว แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือถูกยิงแต่อย่างใด จากนั้นจึงได้ทำการโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัวพระเชื้อ ไปทำการสึก เพื่อที่จะนำตัวไปทำแผนในที่เกิดเหตุ ส่วนรูปคดีจะเป็นอย่างไร อยู่ที่พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและพยานสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงผู้เสียหายที่ถูกยิงปืนใส่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย
