นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับค่าเหยียบแผ่นดิน หรือที่ เรียก อย่างเป็นทางการว่า “ค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยว” จะเป็นการจัดเก็บเฉพาะจากนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามา ประเทศไทยเท่านั้น ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มีการศึกษาวิเคราะห์อย่างรอบด้าน ทั้งด้านการศึกษาเชิงเปรียบเทียบ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและผลกระทบ การวิเคราะห์เชิงเศรษฐมิติ การสอบถามความคิดเห็นเชิงลึกจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พบว่า อัตราการจัดเก็บที่เหมาะสม เป็นรายละ 300 บาท ต่อครั้งสำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งได้กำหนดไว้ว่าเงินจำนวน 300 บาทดังกล่าวนี้ จะนำเข้า กองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยประมาณ 50% ซื้อประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยว 20% (ระยะเวลาความคุ้มครอง 45 วัน) ส่วนเงินที่เหลือประมาณ 20-30% จะเป็นค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างบริษัท หรือหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาบริหารจัดการให้ เกิดประสิทธิภาพ โดยคาดว่าเร็วที่สุดน่าจะสามารถเริ่มจัดเก็บได้ในวันที่ 1 เมษายน 2565 ซึ่งขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะ กรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติ และจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ และนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด คาดว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (เมษายน-กันยายน 2565) จะสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 ล้านคน