โดยพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ หรือสารวัตรกาญคลุ้มคลั่ง สาดกระสุนรัวออกจากบ้านพักในบ้านพักซอยสายไหม 46 จนเจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตา ปิดล้อมเกลี้ยกล่อม กระทั่งตัดสินใจจู่โจมเข้าชาร์ทตัว แต่สารวัตรกาญยิงปืนต่อสู้ ทำให้เกิดการดวลปืนเกิดขึ้น โดยสารวัตรกาญถูกคมกระสุน 3 นัด และพยายามปีนหน้าต่างชั้น 2 หนี จนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนั้น ขอชี้แจงว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยากต่อการเจรจา ตำรวจพยายามระงับเหตุแล้วทุกวิถีทางแล้ว แต่สารวัตรการณ์ไม่มีท่าทีสงบไม่ยอมวางอาวุธ ทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น ซึ่งขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวสารวัตรกาญอย่างใจจริง
ขอยอมรับว่าชุดอรินทราช 26 ใช้กระสุนจริงปฏิบัติการ เนื่องจากสารวัตรกาญมีอาวุธเป็นกระสุนจริงอยู่ด้วยและโต้ตอบตลอดเวลา ทำให้จำเป็นต้องมีอาวุธที่เท่าเทียมกับผู้ก่อเหตุบางส่วน และขั้นตอนก็เป็นไปตามแผนกรกฎ มีผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 บัญชาการเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา ส่วนกรณีพบรอยกระสุน 6 จุด ตามร่างกายสารวัตรกาญ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างแพทย์ชันสูตรให้ละเอียดก่อน ว่าเป็นการเสียชีวิตจากสาเหตุใด
ทั้งนี้หากพูดถึงสาเหตุการคลุ้มคลั่งของสารวัตรกาญ น่าจะมาจากสภาวะจิตไม่ปกติ เพราะทราบว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ปกปิดอาการ ส่วนเรื่องความเครียดในการทำงานเชื่อว่าไม่มี เพราะผ่านเกณฑ์การทดสอบทางจิตใจมาแล้ว ส่วนการโยกย้ายมาปฏิบัติงานด้านข่าวของตำรวจสันติบาล เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ก็เป็นความสมัครใจ เนื่องจากผู้เสียชีวิตถนัดกว่ากองบัญชาการศึกษา และเพิ่งมีอาการผิดปกติเพียง 5 วันเท่านั้น ก่อนมาเกิดเหตุ ซึ่งที่ผู้บังคับบัญชาโทรศัพท์ไปหา พบว่าพูดจาผิดปกติ จึงได้พาแพทย์ไปรับที่บ้านเพื่อจะพามารักษาแต่ก็ถูกปฏิเสธและโต้ตอบกลับด้วยอาวุธ ส่วนประวัติการเสพกัญชาจะมีร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากพบอุปกรณ์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ