น้ำป่าท่วม หลายพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ สร้างความเดือดร้อน

โดย นาย เอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง สั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ ให้เฝ้าระวังเรื่องฝนตกหนักในช่วงระหว่างวันที่ 25 - 27 ก.พ. นี้ โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ชุมชนเมือง พื้นที่ติดแม่น้ำลำคลอง อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง พื้นที่ลาดเชิงเขา อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม

ส่วนที่จังหวัดสตูล ฝนที่ตกติดต่อกัน 2 วันแบบไม่หยุด ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ ต.น้ำผุด อ.ละงู โดยระดับน้ำในคลองลำโลนเพิ่มสูงขึ้นเข้าไปในพื้นที่ท่องเที่ยว โดยชุมชนล่องแก่งวังสายทอง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.สตูล ผลคือ ผู้ประกอบการต้องเร่งย้ายสิ่งของของนักท่องเที่ยวและรถนักท่องเที่ยวไปไว้ที่สูงที่ปลอดภัย และที่จังหวัดตรัง ฝนตกติดต่อกันทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลเข้าท่วมบางพื้นที่ของ อ.นาโยง และอ.เมือง ทำให้รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวังในการสัญจร

ขณะที่ชาวบ้าน ปรับทุกข์ว่า น้ำท่วมครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 ของปีนี้แล้ว โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกหนัก สาเหตุมาจากการขุดวางท่อระบายน้ำของถนนที่มีขนาดเล็กเกินไปไม่สามารถระบายน้ำได้ทันหากน้ำมาปริมาณมาก จึงอยากเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างเป็นสะพาน หรืออุโมงค์ขนาดใหญ่เพื่อใช้ระบายน้ำแทน

ด้านนาย นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เดินทางไปจังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งยัง กล่าวว่า แนวโน้มคาดการณ์ว่า จ.นราธิวาส จะยังมีฝนตกต่อเนื่อง และอาจมีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำได้ จึงสั่งให้ ปภ. ในพื้นที่ดูแลประชาชนโดยตรง และต้องทันเหตุการณ์