กรณีมีชาวบ้านในพื้นที่ หมู่4 ตำบลเสม็ดใต้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ออกมารวมตัวเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบางคล้า ออกมาชี้แจงถึงความคืบหน้าทางคดี กรณีมีคนร้ายบุกเข้ามางัดกุฏิพระและโจรกรรมทรัพย์สินไป โดยเป็นเงินเก็บของพระสงฆ์จำนวนกว่า 1 ล้านบาท พร้อมด้วยพระเครื่องมูลค่าสูงจากภายในวัดสนามช้างไป เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำประกาศจาก พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผกก.สภ.บางคล้า ได้ตั้งรางวัลนำจับ เป็นจำนวนเงิน 2 หมื่นบาท นำปิดประกาศตามแหล่งชุมชน โดยมีภาพของคนร้ายที่ได้มาจากกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพรูปพรรณและยานพาหนะของคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจนจากทางด้านหลัง ซึ่งเป็นชายสูงประมาณ 170 ซม. รูปร่างสันทัด ใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้ารุ่น เวฟ 125 I สีน้ำเงิน-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เบาะนั่งสีแดงจากโรงงาน ล้อแม็กสีดำจากโรงงาน สวมหมวกกันน็อคสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีดำ สวมกางเกงขาสั้นสามส่วนสีครีม และสวมรองเท้าแตะ
ทั้งนี้หากประชาชนทั่วไปพบเห็นบุคคลตามภาพดังกล่าว หรือสามารถให้ข่าวจนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้มีรางวัลนำจับ 20,000 บาท สำหรับช่องทางในการแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถประสานมายัง สภ.บางคล้า ตามหมายเลข 038-541111 หรือติดต่อมายัง พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผกก.สภ.บางคล้า ทางหมายเลขโทรศัพท์ 09-4495-4559 เพื่อดำเนินการเข้าไปจับกุมตัวคนร้ายต่อไป
ขณะที่นายวิฑูรย์ ศรีสุนทร อายุ 64 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สำหรับแหล่งที่มาของเงินกว่า 1 ล้านบาท ที่ถูกคนร้ายโจรกรรมหายไปนั้น เป็นเงินเก็บสะสมของพระสงฆ์ท่านเอง โดยเป็นปัจจัยที่ พระชัยรัตน์ ธมฺมรตโน อายุ 45 ปี พรรษา 24 รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดสนามช้าง ได้รับมาจากญาติโยมที่ถวายให้ในขณะออกไปรับกิจนิมนต์ หลังจากบวชมานานถึง 24 พรรษา ก่อนที่จะนำมาเก็บใส่ไว้ภายในตู้ โดยที่ไม่ได้มีกิจธุระอะไรที่จะนำออกมาใช้จ่าย เนื่องจากบวชเป็นพระสงฆ์จึงไม่ได้ใช้เงิน ประกอบกับยังมีเงินบางส่วนที่ทางครอบครัว คือ บิดา มารดา และญาติพี่น้อง ได้นำมาถวายไว้ให้ เพื่อเก็บไว้ใช้จ่ายในการรักษาตัวหากป่วยเป็นอะไรไป เนื่องจากพระชัยรัตน์ เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของครอบครัว