โดยกรณีนี้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายโน ผู้ต้องหาได้มีการโทรศัพท์ติดต่อมาทางนายอำนวย ผู้เป็นบิดา ว่าจะขอเดินทางเข้ามอบตัว จึงได้มีการประสานนายมนัส อ่ำจุ้ย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลหนองกรด อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ให้ไปรับและพาเข้ามอบตัวกับตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ โดยนายโนให้การว่า หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีวนเวียนอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ได้ข้ามไปยังต่างอำเภอ และไปจอดรถซ่อนตัวอยู่ในป่าหนองน้ำ พื้นที่หมู่บ้านหนองตะโก ตำบลหนองกรด อำเภอเมืองนครสวรรค์
ทั้งนี้ พบว่า นายโนมีร่องรอยบาดแผลที่ศีรษะทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเกิดจากการต่อสู้กับนายรุจิภาส ที่มีการยื้อแย่งมีดกัน แล้วมีช่วงหนึ่งนายรุจิภาสได้แย่งมีดจากนายโนได้จึงถูกฟันจนได้รับบาดเจ็บก่อนจะแย่งมีดคืนกลับมาแล้วทำร้ายนายรุจิภาสจนสลบเหมือดไป ส่วนของกลางที่ยึดมาได้จากนายโน ขณะนี้พบว่า ได้มีการยึดสร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง ทั้งของคนตายและของคนเจ็บ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้นได้ด้วย
ด้าน นายมนัส อ่ำจุ้ย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ไปรับการประสานแจ้งจากพ่อแม่ของนายโน ว่าลูกจะขอให้พาเข้ามอบตัวกับตำรวจ จึงได้เดินทางไปรับตัวในพื้นที่บ้านหนองตะโกก่อนจะพาตัวมาส่งให้กับตำรวจที่โรงพัก และในระหว่างเดินทางได้สอบถามนายโนมาบ้าง จึงทราบว่า นายโนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและทนการบาดเจ็บไม่ไหว จึงได้ติดต่อให้พาไปมอบตัว ขณะที่นายอำนวย บิดาของนายโน บอกกับทีมข้างในเบื้องต้นว่า สาเหตุที่นายโนไปก่อเหตุอย่างนั้น เนื่องจากนายโนได้มีการไปพูดคุยเรื่องหนี้สินกับผู้ตาย แล้วถูกผู้ตายต่อว่า และมีการจะถีบหน้า จึงเกิดอารมณ์โมโหไปคว้ามีดที่อยู่ในบ้านผู้ตายมาทำร้ายจนเสียชีวิตดังกล่าว
