ชายคนหนึ่งที่ตกงานในจังหวัดสงขลา ตัดสินใจเดินกลับบ้านที่บุรีรัมย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย หลังจากเดินมา 12 วัน ชายวัย 42 ปีคนนี้ก็ได้รับความช่วยเหลือที่ค่ายทหารในจังหวัดพัทลุง ทหารคอยช่วยดูแลเขาและจ่ายค่าตั๋วรถไฟให้เขากลับไปอีสาน
ชายคนนี้เกิดที่บุรีรัมย์ก่อนย้ายไปสงขลาเมื่อประมาณ 7 เดือนก่อนเพื่อทำงานที่สวนยางพาราในอำเภอนาทวีทำ เขาวางแผนที่จะหาเงินส่งกลับบ้านให้ครอบครัวของเขากลับบ้านที่อีสาน ตอนแรกเขาทำเงินได้ประมาณ 300 บาทต่อวัน จากการตัดต้นยางพารา หลายเดือนผ่านไป เขาบอกว่างานเริ่มหายากและเขาแทบไม่ได้เงินเลย เขาไม่ได้ส่งเงินกลับบ้านตามแผนที่วางไว้ และเขาคิดถึงลูกสาววัย 11 ขวบมาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจกลับบ้านในวันที่ 5 กันยายน
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทั้งเงินหรือโทรศัพท์ ดังนั้นเขาจึงต้องเดินทางกลับ เขาเดินในระยะทาง 300 กิโลเมตรใน 12 วัน นอนหลับที่วัดระหว่างทาง ซึ่งพระสงฆ์ให้อาหารและที่พักแก่เขา จนกระทั่งเดินไปถึงค่ายทหารในจังหวัดพัทลุง และหยุดขอน้ำดื่ม ตอนแรกพวกทหารคิดว่าเขาเป็นอาชญากร จึงนำตัวเขาไปสอบปากคำเมื่อรู้ความจริง กองทัพบอกเขาว่าจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้เพื่อให้เขาบินกลับบ้านที่บุรีรัมย์ แต่เขาไม่เคยขึ้นมาก่อน ดังนั้นทางกองทัพจึงให้เงินสดเขาไป 1,000 บาท และไปส่งเขาที่สถานีรถไฟ