เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ทำการเปิดระดมทุนเงินฉุกเฉินจำนวน 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากแต่ละประเทศ เพื่อที่จะนำเงินส่วนนี้ไปใช้สำหรับการบรรเทาทุกข์ และปกป้อง ชาวยูเครนกว่า 12 ล้านคน ที่กำลังต้องเผชิญกับสงครามการรุกรานเข้ามาของรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียได้เริ่มบุกยูเครนไปตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา อีกทั้งยังนำเงินไปใช้สำหรับผู้ที่ลี้ภัยสงครามความรุนแรงนี้ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกกว่า 4 ล้านคน
นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการด้านกิจการมนุษยธรรมและการประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉิน ของ UN กล่าวที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า ในเวลานี้นับว่าเป็นช่วงเวลามืดมนของชาวยูเครนมาก ๆ อีกทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็เลวร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว โดยยูเอ็นจะต้องเปลี่ยนจากความใจ ความไม่เชื่อมั่น หรือความไม่แน่นอนในวันข้างหน้า ให้สามารถกลายมาเป็นความเห็นอกเห็นใจ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้ได้ เนื่องจากยังมีชาวยูเครนหลายล้านคนที่กำลังลำบาก ต้องการความช่วยเหลือ และต้องการปกป้องอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ยูเอ็นยังระบุอีกว่า เงินกว่า 40% จะถูกนำไปใช้สำหรับการแจกจ่ายให้กับประชาชนเป็นเงินสด นอกจากนั้นก็จะมีการจัดส่งความช่วยเหลืออื่น ๆ เช่น ด้านอาหาร เครื่องดื่ม สิ่งของที่จำเป็น อุปกรณ์ทางการศึกษา และยังรวมถึงความช่วยเหลือทางด้านการทำที่พักหลบภัยอีกด้วย รวมถึงจะมีการช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนที่พังเสียหายด้วย ซึ่งยูเอ็นก็จะให้การสนับสนุนทางการยูเครนอย่างเต็มที่ในการจัดตั้งศูนย์ดูแลคนพลัดถิ่นด้วยนั่นเอง
