เกิดความกังวลอย่างหนัก ที่เกิดจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น 65% ในปี 2021 โดยความเข้มข้นของน้ำมัน ซึ่งเป็นปริมาณการใช้น้ำมันต่อหน่วยของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ลดลง 56% ระหว่างปี 1973 - 2019 อ้างอิงตามรายงานของศูนย์นโยบายพลังงานโลกของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ดังนั้นเมื่อเทียบกับในปี 1973 การผลิตน้ำมันต่ำกว่า 1 บาร์เรลเพียงเล็กน้อย สามารถผลิตผลผลิตทางเศรษฐกิจ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตัวเลขดังกล่าวก็ลดลงเหลือน้อยกว่าครึ่งบาร์เรล ในปี 2010 มีการใช้น้ำมันมากกว่า 75 ลิตรต่อ GDP โลก 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทุกวันนี้มีปริมาณ 65 ลิตร นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley กล่าว โดยสาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้คือผู้ใช้ระดับกลาง เช่น โรงไฟฟ้าที่เลิกใช้น้ำมัน ทางด้านผู้ใช้ปลายทาง เช่น ผู้ขับขี่รถยนต์ยังคงพึ่งพาน้ำมันเบนซิน แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รถยนต์ในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยจะได้รับ 25 ไมล์ต่อแกลลอน เทียบกับ 13 ไมล์ในปี 1975 แม้ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเพิ่มขึ้น 430 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 แต่ราคาน้ำมันก็ดูไม่แพงเมื่อมองในระยะยาว
นับตั้งแต่ต้นปี 2011 หุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้น 125% เมืองใหญ่ ๆ ได้เห็นการเติบโตของราคาบ้าน 2 – 3 หลัก แต่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของ Brent ลดลง 10%