มีการเปิดเผยจากสำนักข่าวต่างประเทศว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้เผยว่า ทางกองทัพนั้นประสบความล้มเหลวในการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่มีชื่อว่า Conventional Prompt Strike (CPS) ซึ่งเป็นขีปนาวุธต้นแบบ โดยความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการทดสอบนี้เองก็เกิดขึ้นหลังจากกระบวนการสันดาปเชื้อเพลิง
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ นาวาตรี ทิม กอร์แมน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของโครงการได้กำลังสอบสวนข้อมูลต่าง ๆ เพื่อที่จะหาสาเหตุของการทดสอบ เพื่อนำข้อมูลมาใช้อ้างอิงในการทดสอบในอนาคตต่อไป แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดเพิ่มเติม ว่าแท้ที่จริงแล้วในการทดสอบนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งการทดสอบขีปนาวุธ CPS ได้ล้มเหลวในการทดสอบมาแล้วจำนวน 2 ครั้งด้วยกัน หลังจากที่ครั้งก่อนจรวดขับดันทำงานขัดข้องในขณะที่ได้ทดสอบการบิน จึงทำให้จรวดไม่พุ่งออกจากฐานยิงไป
ทั้งนี้ สหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงของการเผชิญต่อแรงกดดัน ทำให้ต้องรีบพัฒนาอาวุธความเร็วเหนือเสียง เพราะว่าก่อนหน้านี้ จีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือ ได้เดินหน้าอย่างเต็มที่ในการพัฒนาขีปนาวุธชนิดนี้เช่นกัน ซึ่งจากการพัฒนาก็ทำให้ขีปนาวุธสามารถบินได้เร็วกว่าเสียงถึง 5 เท่าเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีความสามารถในการหลบลีกระบบสกัดขีปนาวุธ และติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ยังมั่นใจว่า พวกเขาจะสามารถทำให้สำเร็จได้ตามเป้าหมายในช่วง ต้นทศวรรษที่ 2020
