European Green Deal มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของยุโรป ให้เหลือศูนย์ภายในปี 2050 อย่างน้อยก็ผ่านการลดการปล่อยคาร์บอนของภาคพลังงาน แต่ในขณะที่ยุโรปต้องการเป็นผู้นำระดับโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คำถามที่ตามมาคือ จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่และมีค่าใช้จ่ายเท่าไร งานนี้น่าเกรงขามและยากมากขึ้น วิกฤตการณ์โควิด-19 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ที่จำเป็นในการลดการใช้คาร์บอนอย่างมหาศาล ผู้บริโภคและนักการเมือง ต้องการหลีกเลี่ยงความตกใจดังกล่าว ด้วยการลดการจัดหาพลังงานสีเขียวราคาถูกและมีเสถียรภาพ ด้วยนโยบายที่ดีและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จะทำให้วัตถุประสงค์นั้นเข้าถึงได้ เนื่องจากคาร์บอนจะต้องถูกเก็บภาษีอย่างเพียงพอเพื่อพิจารณาปัจจัยภายนอกของสภาพอากาศเชิงลบ ราคาของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จึงต้องสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ไฟฟ้ามีราคาแพงขึ้นแน่นอน
ยุโรปต้องนำเข้าส่วนใหญ่ที่จำเป็น ทั้งนี้เพื่อรับประกันอุปทานที่ปลอดภัย จึงทำให้ตัวเองตกอยู่ในความยาก อย่างเช่น รัสเซียและแอลจีเรีย ซึ่งมักจะใช้ทรัพยากรก๊าซของพวกเขาในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ กับยูเครนและโมร็อกโกตามลำดับ