รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย เป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของประเทศ คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 50% จากระดับปี 2005 ภายในปี 2030 ซึ่งมีการกำหนดจังหวะการดำเนินการด้านสภาพอากาศให้ดีขึ้นอันเป็นไปตามกฎสากล
โครงการของรัฐบาลนิวเซาธ์เวลส์ที่เน้นการปกครองแบบอนุรักษนิยม จะลดการปล่อยมลพิษให้มากขึ้นภายในปี 2030 เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ 35 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากนโยบายส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมามีการเร่งกระบวนการ ในทางตรงกันข้าม นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน มีความกังวลเป็นอย่างยิ่ง เกี่ยวกับงานถ่านหินและแหล่งพลังงานที่มีเสถียรภาพและต้นทุนต่ำ ซึ่งได้ต่อต้านแรงกดดันที่จะเพิ่มเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนก่อนการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติในเดือนหน้า ทางประเทศได้ให้คำมั่นที่จะลดระดับ 26 เปอร์เซ็นต์เป็น 28 เปอร์เซ็นต์จากระดับปี 2005 ภายในปี 2030
Matt Kean รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ผลักดันการพัฒนาพลังงานลม, พลังงานแสงอาทิตย์ และไฮโดรเจนใน Hunter Valley ของรัฐ ซึ่งเป็นแหล่งถ่านหินที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศผู้ส่งออกถ่านหินชั้นนำของโลก