สำนักข่าวของฝรั่งเศสได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 เมษายน 2561 ตามเวลาท้องถิ่นแห่งประเทศฝรั่งเศส ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายเพื่อเพิ่มอายุเกษียรจาก 62 ปี เป็น 64 ปี ซึ่งเป็นแผนปฏิรูปของประธานาธิบดีคนปัจจุบันอยู่แล้ว และตลอดระยะเวลาที่ เอ็มมานูเอล มาครง ผลักดันร่างกฎหมายนี้ให้ผ่านอนุมัติ ประชาชนฝรั่งเศสต่างก็ไม่พอใจ เพราะพวกเขามองว่าประชาชนไม่มีส่วนร่วม และไม่ได้ผ่านรัฐสภา แต่ทว่าตลอดระยะเวลา 3 เดือน กับการประท้วง เอ็มมานูเอล มาครงไม่ได้สนใจเสียของประชาชนเลยแม้แต่น้อย
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้นั่นก็คือการประท้วงที่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น โดยมีการวิเคราะห์สถานการณ์ว่าในปัจจุบันนี้ เมืองปารีส ซึ่งเป็นศูนย์กลางของฝรั่งเศส และหัวเมืองใหญ่ต่างก็มีการประท้วงกันดุเดือดขึ้นทุก ๆ วัน ยิ่งเมื่อสถานการณ์ของ เอ็มมานูเอล มาครง ได้ผลักดันร่างกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 ปีเป็น 64 ปีสำเร็จ ยิ่งจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นในการประท้วง และการหยุดงานไม่ว่าจะเป็นรถเก็บขยะ หรือว่าห้างร้านค้า ก็ไม่ได้เกิดจากการประท้วง แต่ว่าเป็นการสมัครใจของกรมแรงงานที่พวกเขาไม่พอใจเช่นเดียวกัน