ท่ามกลางความโกลาหลที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่ต้องเผชิญกับความรุนแรงจากแก๊งและการประท้วงการปกครองแบบเผด็จการที่เพิ่มมากขึ้น
การสังหารครั้งนี้จะทำให้เกิดความโกลาหลมากขึ้นในประเทศแคริบเบียนที่ไม่มั่นคง ซึ่งรุมเร้าด้วยความรุนแรงของแก๊ง อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และการประท้วงโดยผู้สนับสนุนฝ่ายค้านที่กล่าวหาว่า Jovenel Moïse เพิ่มอำนาจนิยมแบบเผด็จการ เฮติเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในทวีปอเมริกา มีประวัติการปกครองแบบเผด็จการและความวุ่นวายทางการเมืองมากมาย นายกรัฐมนตรีชั่วคราว Claude Joseph ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนระดับนานาชาติที่เกี่ยวกับการลอบสังหาร โดยกล่าวว่าการเลือกตั้งที่กำหนดไว้สำหรับปลายปีนี้ควรจะจัดขึ้น และให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับพันธมิตรและฝ่ายตรงข้ามให้ดีที่สุด “เราต้องการทุกคนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า” เขากล่าว
Bocchit Edmond เอกอัครราชทูตเฮติประจำสหรัฐอเมริกากล่าวว่า การลอบสังหารประธานาธิบดี Jovenel Moïse วัย 53 ปี ดำเนินการโดยทหารรับจ้างต่างชาติและนักฆ่ามืออาชีพ ทางด้านภรรยาของประธานาธิบดีที่ได้รับลูกหลงตอนนี้อาการคงที่แล้ว แต่อยู่ในภาวะวิกฤต และถูกย้ายไปไมอามีเพื่อรับการรักษา
